วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รีวิว samsung Galaxy Y


[รีวิว] Samsung Galaxy Y สมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก กับราคาเบาๆ น่าสัมผัส

เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนจาก ซัมซุง ตระกูล Galaxy แล้ว ต้องบอกเลยว่า มีหลายรุ่น หลายราคา ให้เลือกซื้อกันอย่างมากมายเลยทีเดียว โดยระดับราคานั้น มีตั้งแต่ราคาสูงที่สุด อย่าง Samsung Galaxy Note ที่เป็นได้ทั้ง สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตในเครื่องเดียว จำหน่ายแล้วในราคา 22,900 บาท หรือรุ่นรองลงมา อย่าง Samsung Galaxy S II ที่มียอดจำหน่ายในตอนนี้อย่างถล่มทลายเลยทีเดียว
แต่สำหรับ ผู้ที่กำลังมองหา สมาร์ทโฟน รุ่นที่สเปคไม่สูง และราคาไม่แพงอยู่แล้วล่ะก็ ทางซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Y ที่เจาะกลุ่มตลาดผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่น โดย Samsung Galaxy Y นั้น มีดีไซน์ที่คล้ายกับ Samsung Galaxy Cooper แต่มีสเปคที่ต่ำกว่าเล็กน้อย พร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 Gingerbread เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องแรก ราคาไม่แพง และไม่ต้องการฟีเจอร์มากจนเกินไปนั่นเอง
แกะกล่อง สำรวจอุปกรณ์ด้านใน
ภายในกล่องของ Samsung Galaxy Y นั้น ประกอบด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น microSD card ความจุ 2GB พร้อม SD adapter, สาย USB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล และที่ชาร์ตแบตเตอรี่ ซึ่งอุปกรณ์ที่ขาดหายไปนั้น คือ หูฟัง แต่สำหรับ Samsung Galaxy Y ที่จำหน่ายในไทยนั้น มีหูฟังแถมมาให้ในกล่องอุปกรณ์ครับ (ขอบคุณผู้ใช้งานที่แจ้งข่าวครับ)
การออกแบบ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Samsung Galaxy Y จะทำมาจากพลาสติกเสียส่วนใหญ่ ประกอบกับฝาหลัง สามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี อีกทั้งขนาดกำลังเหมาะมือ รวมทั้งน้ำหนักเบาเพียง 97.5 กรัมเท่านั้น
Samsung Galaxy Y มีจอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว (QVGA) แบบ TFT Capacitive Touchscreen ความละเอียด 240x320 พิกเซล ซึ่งการตอบสนองของหน้าจอ ถือว่าทำได้ดีพอสมควร
ด้านบนของจอแสดงผล ประกอบด้วย Proximity sensor สำหรับปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และลำโพงสำหรับสนทนาขนาดใหญ่ ส่วน Ambient light sensor สำหรับปรับแสงแบบอัตโนมัตินั้น Samsung Galaxy Y ไม่รองรับในจุดนี้ ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องปรับระดับความสว่างของหน้าจอเอง
ด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มเมนู (ซ้าย), ปุ่ม Home (กลาง) และปุ่ม Back (ขวา) โดยปุ่ม Home นั้น เป็นลักษณะปุ่มแบบ Hardware button ในขณะที่ 2 ปุ่มที่เหลือ เป็นแบบระบบสัมผัส หรือ Capacitive control เมื่อใช้งาน ปุ่มเมนู และปุ่ม Back นั้น จะมีแสงสว่างขึ้นมา และดับลงเมื่อไม่ได้ใช้งาน
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเปิด-ปิด-ล็อคเครื่อง เพียงปุ่มเดียวเท่านั้น
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และช่องสำหรับร้อยสายคล้องคอ
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย microUSB port และช่องสำหรับหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องสำหรับเปิดแบตเตอรี่ที่ฝาหลัง
ด้านหลังของตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องดิจิตอล ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และลำโพง ซึ่งฝาหลังนั้น ทำมาจากพลาสติกที่มีผิวขรุขระ สามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี
แบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 1200mAh สามารถสนทนาได้นานถึง 6 ชั่วโมง (2G) และสแตนบายด์รอได้นาน 850 ชั่วโมง (2G) เลยทีเดียว
User Interface - TouchWiz
ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Y จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับล่าง เนื่องจากมีราคาถูก และสเปคตัวเครื่องไม่สูง แต่สำหรับระบบปฏิบัติการแล้ว Samsung Galaxy Y นั้น ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 Gingerbread พร้อม User Interface แบบ TouchWiz แต่เนื่องจากความละเอียดของจอแสดงผลไม่สูงมาก ประกอบกับหน้าจอขนาดเพียง 3 นิ้ว อาจจะทำให้การแสดงผลในบางเรื่อง มีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อย
ในส่วนของ Notification area หรือการแจ้งเตือนต่างๆ นั้น ประกอบไปด้วย การตั้งค่าการใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, GPS, เสียง (Sound) และการหมุนของหน้าจอแบบอัตโนมัติ (Auto-rotation) ซึ่งในส่วนนี้ ขาดการรายงานในเรื่องของ การแสดงผลจากการดาวน์โหลด และอีเวนท์ต่างๆ
Widgets หน้า Homescreen นั้น สามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 7 หน้า ซึ่งผู้ใช้งาน เพิ่ม, ลด, จัดวางตำแหน่ง ของ Widgets ได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ดี การมี Widgets มากจนเกินไป อาจจะทำให้ตัวเครื่องหน่วงได้ เนื่องจากความเร็วของระบบประมวลผลไม่สูงมากนัก ฉะนั้น Widgets ไหนที่ไม่ได้ใช้งาน ควรลบออกไปจะดีกว่าครับ อย่างไรก็ดี หน้า Homescreen บน Samsung Galaxy Y รองรับ Live Wallpapers ครับ
เมื่อตัวเครื่องเปิด แอพพลิเคชั่น มาใช้งานมากเกินไป สามารถจัดการกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ ด้วย TouchWiz task manager ซึ่งการใช้งานก็เหมือนกับ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นก่อนๆ เมื่อโปรแกรมไหนที่ไม่ได้ใช้งาน ก็ควรจะปิด เพื่อดึงหน่วยความจำ (RAM) ให้กลับคืนมานั่นเอง
ในส่วนของเมนูนั้น เป็นการจัดเรียงแบบ Vertical scrollable grid หรือการเลื่อนจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย โดยผู้ใช้งานสามารถจัดเรียงตำแหน่งไอคอนได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ดี เมนูไม่สามารถใช้งานแบบ List view ได้ครับ
รองรับ Gmail application
Samsung Galaxy Y รองรับ Gmail application สำหรับผู้ใช้งาน Gmail ซึ่งเป็นโปรแกรมคู่กันกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ อย่างไรก็ดี การใช้งานในเรื่องการของพิมพ์อีเมล หรือตอบจดหมายนั้น จะทำได้ลำบากซักเล็กน้อย เนื่องจากหน้าจอมีขนาดเล็ก ยากต่อการกดนั่นเอง สำหรับผู้ที่มีอีเมลอื่น ที่นอกเหนือไปจาก Gmail อย่างเช่น Hotmail หรืออีเมลของบริษัท Samsung Galaxy Y ก็รองรับในส่วนนี้เช่นกัน (รองรับทั้ง POP และ IMAP)
รองรับฟังก์ชั่น Swype
สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดเล็ก การพิมพ์ในแต่ละครั้ง ค่อนข้างทำได้ลำบาก และช้า ซึ่ง Samsung Galaxy Y ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ 2 ระบบ คือ แบบ keypad ที่ผู้ใช้งานต้องพิมพ์เอง กับแบบ Swype ที่ช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ไปได้มาก และเหมาะกับสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดเล็ก โดยวิธีการใช้นั้น เพียงแค่ลากนิ้วไปยังคำที่ต้องการพิมพ์ โดยที่ไม่ต้องลากให้ครบทุกตัว ระบบจะทำการสะกดคำให้อย่างอัตโนมัติเลยทันที อย่างไรก็ดี ฟังก์ชั่น Swype รองรับเพียงบางภาษาเท่านั้น
เปิดดูภาพใน Gallery
สำหรับหมวด Gallery นั้น จะแสดงในลักษณะของ 3D และเอฟเฟ็กซ์การเปลี่ยนภาพที่แปลกตา ซึ่งสามารถขยายภาพถ่ายโดยใช้ฟังก์ชั่น Pinch-to-Zoom ได้ หรือการที่ปุ่ม +/- บนหน้าจอ อย่างไรก็ดี กล้องดิจิตอลบน Samsung Galaxy Y มีความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น ซึ่งภาพที่ได้ อาจจะไม่คมชัดเท่าที่ควร
เปิดไฟล์วิดีโอ
ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของฮาร์ดแวร์ ทำให้ Samsung Galaxy Y ไม่สามารถรองรับไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงมาก อย่าง DivX หรือ XviD ได้ ซึ่งรองรับได้เพียงไฟล์นามสกุล 3GP หรือ MP4 เท่านั้น ส่วนโปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอก็ดูปกติ ธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ
ฟังเพลงบน Music Player
โปรแกรมเครื่องเล่นเพลง สามารถแสดงรูปปกอัลบั้ม สามารถค้นหาเพลงจากชื่ออัลบั้ม ชื่อเพลง หรือชื่อนักร้องได้ อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนด้วยแบบของเสียง ด้วยฟังก์ชั่น Equaliser ได้อีกด้วย
กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และการถ่ายภาพวิดีโอ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และต้องการภาพที่มีความละเอียดคมชัด Samsung Galaxy Y อาจจะไม่ตอบโจทย์ในจุดนี้ เนื่องจากกล้องดิจิตอลด้านหลังตัวเครื่องนั้น มีความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น ซึ่งเป็นความละเอียดระดับมาตรฐานบนสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่สูงมากนัก อีกทั้งไม่รองรับ Flash จึงทำให้ภาพที่ได้ ไม่ละเอียดเท่าที่ควร อีกทั้ง ฟังก์ชั่นการปรับแต่งภาพ ก็มีไม่มากเท่าสมาร์ทโฟนราคาแพงๆ
ส่วนการถ่ายภาพวิดีโอนั้น ได้คุณภาพสูงสุดแค่ระดับ QVGA เท่านั้น
การเชื่อมต่อและเครือข่าย
Samsung Galaxy Y รองรับบลูทูธเวอร์ชั่น 3.0 (A2DP) และ microUSB เวอร์ชั่น 2.0 นอกจากนี้ ยังรองรับเครือข่าย 3G คลื่นความถี่ 850/900/2100 MHz อีกด้วย (สำหรับเครือข่าย Truemove และ Dtac จะเป็นรุ่น i9100T ส่วนเครือข่าย AIS จะเป็นรุ่น i9100)
โปรแกรมเว็บเบราเซอร์
การเปิดหน้าเว็บไซต์บน Samsung Galaxy Y ถือว่า ทำได้ค่อนข้างช้า เนื่องจากระบบประมวลผลมีความเร็วที่ไม่สูงมาก อีกทั้งหน้าจอความละเอียดน้อย ทำให้การแสดงผลนั้น ไม่ดีเท่าที่ควร แต่สำหรับฟังก์ชั่นอื่นๆ บนหน้าเว็บ เช่น การบุ๊คมาร์ค หรือการซูมหน้าเว็บแบบ Pinch-to-Zoom สามารถทำได้ตามปกติ
Android Market เวอร์ชั่นใหม่
Samsung Galaxy Y รองรับ Android Market เวอร์ชั่นใหม่ ที่มีรูปแบบที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นเดิม และง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมี section ใหม่อย่าง Editor’s choice และ Staff choices เพื่อเป็นทางเลือก ในการหาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ มาใช้งานอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการจัดอันดับแอพพลิเคชั่นประเภท Top Paid, Top Free, Top Grossing, Top New Paid, Top New Free และ Trending (แอพพลิเคชั่นที่เป็นที่นิยม) เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้งานอีกเช่นกัน
สร้างและแก้ไขไฟล์เอกสารด้วย Quickoffice
โปรแกรมยอดนิยมสำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่าง Quickoffice ก็มีมาให้บนตัวเครื่องเช่นกัน
ระบบนำทาง (GPS) เชื่อมต่อกับ Google Maps
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ก็คือ การใช้ระบบนำทาง หรือ GPS ซึ่งค้นหาเส้นทางโดยผ่านระบบดาวเทียม ในขณะที่ ฟังก์ชั่น A-GPS จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ต
บทสรุป
สำหรับสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy ที่มีคุณสมบัติ และราคาใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy Y นั้น ก็คือ Samsung Galaxy Mini ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า Samsung Galaxy Y เพียงเล็กน้อย และกล้องดิจิตอลความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล ซึ่งละเอียดกว่า สำหรับผู้ที่กำลังลังเลว่า ระหว่าง 2 รุ่นนี้ ควรจะซื้อรุ่นไหนดี เนื่องจากราคาไม่แตกต่างกันมาก ในจุดนี้ ควรจะต้องสอบถามตัวเราเองก่อนครับว่า จะใช้การใช้งานในด้านใดมากที่สุด ถ้าหากชอบการถ่ายรูป ควรจะเลือก Samsung Galaxy Mini ครับ เพราะมีกล้องที่ชัดกว่า แต่ถ้าหากชอบการใช้งานในด้านอินเทอร์เน็ต ควรเลือก Samsung Galaxy Y เนื่องจาก ระบบประมวลผลเร็วกว่านั่นเองครับ

credit

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น